วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แนวทางช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหา ชั้น ป.3 ลำปลายมาศพัฒนา


แนวทางช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหา  ชั้น ป.3 ลำปลายมาศพัฒนา
วันที่ 14 กุมภาพันธ์  2556
15.00 น. ชุมนุม  ช่วยครูยิ้มในชุมนุม ภาษาไทย แจกหนังสือภาษาไทยให้เด็กอ่านเรื่อง ต้นข้าวหนีไป แล้วให้เด็กสรุปเรื่องที่อ่านส่ง  ครูยิ้มบอกว่ามีเด็กเรียนร่วมชื่อพี่วิวอยู่ในชุมนุมด้วย มีความบกพร่องด้านการเรียนรู้ สมาธิสั้น ข้าพเจ้าได้ช่วยเหลือพาอ่านแล้วก็พาท่องสะกดด้วยเวลาเขียนก็เขียนได้บ้าง  แต่มักจะบอกว่าคุณครูคะหนูทำไม่ได้ค่ะแล้วก็ไปทำอย่างอื่น  ครูต้องเรียกกลับมาเพื่อให้ทำงานอีกบ่อยมาก  เวลา  16.15 น. คุณแม่พี่วิวมารับ  ได้ปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือจากผู้ปกครอง  คุณแม่พี่วิวเล่าว่า พี่วิวเป็นสมาธิสั้น สั้นมาก ถึงขนาดต้องกินยา  คุณหมอให้ยามากินวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร  เมื่อก่อน พี่วิวมีอาการชักร่วมด้วย  ชักบ่อยมาก  แต่ตอนนี้กินยาตลอดอาการชักก็เลยหายไปแต่ก็ยังกินยาอยู่วันที่ 15  กุมภาพันธ์นี้ก็หมอนัดอีก พรุ่งนี้ขออนุญาตคุณครูลาโรงเรียนให้น้องวิวด้วย  ที่บ้านน้องวิวมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการช่วยเหลือตนเอง  จะให้ทำประมาณ 10 นาทีก็จะให้พัก  เพราะจะไม่ยอมทำ และงอแง ที่บ้านพี่วิวจะล้างจาน  กรอกน้ำ  แต่จะไม่จับไม้กวาดกวาดบ้านจับที่ไรหลุดเพราะมือไม่แข็งแรง  ตอนนี้ก็พยายามฝึกให้เขียนหนังสือทุกวัน  เรื่องสระก็เริ่มสะกดได้บ้างแล้วเมื่อก่อนพาไปหาหมอทุก 3 เดือน  แต่ตอนนี้ดีขึ้น  เดือนครั้ง  การรับยาไปรับมาทุกเดือน  ยาหลังอาหารกลางวันฝากครูดูแลให้ทุกวัน  ครูก้อยที่รับผิดชอบดูแลเรื่องพี่วิวอยู่  เล่าว่าที่โรงเรียนให้การดูพี่วิว  เรื่องการดูแลตนเอง  เรื่องการเรียนครูจะให้พี่วิวทำเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ให้พี่วิวคิดว่าตนเองก็เป็นคนปกติเหมือนเพื่อน  หลังจากที่ครูให้งานเพื่อนแล้วครูจะมาเล่าให้พี่วิวฟังอีก  และจะแยกให้มาทำงานต่างหาก  ส่วนมากจะเน้นเรื่องการอ่านออกเขียนได้อยู่เพราะยังไม่พร้อมด้านอื่น  การพูดก็ยัง เล่าเป็นเรื่องราว ยาวๆ ยังไม่ได้  และการเล่าก่อนถ้าถามมากจะไม่ได้คำตอบและจะตอบคำเดียวคือไม่รู้จำไม่ได้  ตอนนี้ก็เริ่มคิดได้บ้างจำได้บ้างเล่าได้บ้างเล็กน้อย 
 


วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ถอดบล็อก


กิจกรรมจิตศึกษา
ชื่อกิจกรรม : ถอดบล็อก
เป้าหมาย : เพื่อให้นักเรียนจดจ่อกับสิ่งที่ฟัง ดู และทำ เห็นคุณค่าในตัวเองและทุกสรรพสิ่ง ส่งเสริมจินตนาการ และการคิด
สื่อ/อุปกรณ์  :  ไม้บล็อก  1 กล่องขนาดความกว้างหน้าตัด  1 x 2 cm. ความยาว 10 cm. จำนวน 60 ชิ้น
ขั้นตอน:
1.              ให้นักเรียนนั่งเป็นวงกลม ครูเปิดเพลงสปา บรรเลง/ทำกิจกรรมบริหารสมองทั้งสองซีก (Brain Gym)และชื่นชนนักเรียนทุกคนที่ตั้งใจ
2.              ครูตั้งคำถาม “นักเรียนคิดว่าข้างในมีอะไรในกล่องนี้”ให้นักเรียนตอบ
3.              ครูเฉลยโดยการเทบล็อกในแนวตั้ง
4.              ครูชวนเด็ก  “วันนี้เรามาช่วยกันถอดบล็อก แล้วเอาไปต่อข้างบน  ด้วยความระวัง  ไม่ให้บล็อกที่ตั้งอยู่ล้ม   เมื่อถอดเสร็จแล้ว   ให้จำให้ได้ว่า  วางไว้ตรงไหน   เมื่อเพื่อนได้ถอดบล็อกครบทุกคนแล้ว   เราจะมาสอดบล็อกกลับคืน    ด้วยความระวัง  เช่นกัน   ระวังไม่ให้บล็อกที่ตั้งอยู่ล้ม   คนแรกที่ถอดบล็อก  จะเป็นคนสุดท้ายที่สอดบล็อก    และคนสุดท้ายที่ถอดบล็อก  จะได้สิทธิ์  สอดบล็อกก่อนเพื่อน   ระหว่างที่รอ เพื่อน  ส่งกำลังใจให้เพื่อน  เพื่อนที่ทำหน้านี้   ต้องคิดให้ดี  วางแผนในใจว่า  ถ้าเราถอดแล้วจะบล็อกที่กองอยู่จะล้มไหม  ขอให้เพื่อน  ส่งกำลังใจให้เพื่อน   ให้เพื่อนทำสำเร็จ  หายใจเข้าลึก ๆ และมั่นใจในตัวเองว่าเราต้องทำได้  ”
5.              ครูเริ่มให้เด็กถอดบล็อก และให้เพื่อนส่งกำลังใจให้ ให้เด็กมั่นใจในตนเอง ครูพูดให้กำลังใจ  ตอนนี้เพื่อน ๆ  กำลังส่งกำลังใจให้เพื่อน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่  ขอให้เพื่อนทำสำเร็จขอให้เพื่อนมั่นใจในตนเอง  หายใจเข้าลึก ๆ แล้วตั้งสติ คิดให้ดี  มีสมาธิ  แล้วจะทำได้  ถอดบล็อก แล้วเอาไปต่อข้างบน  ด้วยความระวัง  ไม่ให้บล็อกที่ตั้งอยู่ล้ม   เมื่อถอดเสร็จแล้ว   ให้จำให้ได้ว่า  วางไว้ตรงไหน   เมื่อเพื่อนได้ถอดบล็อกครบทุกคนแล้ว   เราจะมาสอดบล็อกกลับคืน    ด้วยความระวัง  เช่นกัน   ระวังไม่ให้บล็อกที่ตั้งอยู่ล้ม   คนแรกที่ถอดบล็อก  จะเป็นคนสุดท้ายที่สอดบล็อก    และคนสุดท้ายที่ถอดบล็อก  จะได้สิทธิ์  สอดบล็อกก่อนเพื่อน   ระหว่างที่รอ เพื่อน  ส่งกำลังใจให้เพื่อน  เพื่อนที่ทำหน้านี้   ต้องคิดให้ดี  วางแผนในใจว่า  ถ้าเราถอดแล้วจะบล็อกที่กองอยู่จะล้มไหม  ขอให้เพื่อน  ส่งกำลังใจให้เพื่อน   ให้เพื่อนทำสำเร็จ  หายใจเข้าลึก ๆ และมั่นใจในตัวเองว่าเราต้องทำได้

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กิจกรรมจิตศึกษากระดาษแปลงร่างเล่าไปพับไป


จิตศึกษาเล่าไปพับไปกระดาษแปลงร่าง
กิจกรรม :เล่าไปพับไปกระดาษแปลงร่าง
สำหรับ : เด็กอนุบาล
เป้าหมาย : เพื่อให้นักเรียนจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตนเองทำ เห็นคุณค่าในตัวเอง และทุกสรรพสิ่ง ส่งเสริมจินตนาการและการคิด
สื่อ/อุปกรณ์ : กระดาษ A4   1 คน/1ผ่น
ขั้นตอนกิจกรรม
1.             เด็กเดินเข้ามาในห้อง เข้าบ้านตนเองเรียบร้อยครูให้เด็กนอนเป็นปลาดาวผ่อนลมหายใจเข้าออกยาวๆ ครูเปิด ดนตรี สปาบรรเลง
2.             เด็กๆคนไหนที่คิดว่าตัวเองพร้อมลุกขึ้นนั่งลุกขึ้นนั่งแบบไม่มีเสียง
3.             วันนี้ครูมีสิ่งหนึ่งมาแบ่งปันเด็ก ๆ สิ่งนี้เรียกว่ากระดาษ A4 ครูจะเริ่มแบ่งปันจากซ้ายมือของครูส่งต่อให้เด็กๆ  เด็กๆ ส่งต่อให้เพื่อน เพื่อนส่งต่อให้เพื่อนส่งจนรอบได้ครบรอบมาหาครูที่ขวามือครู ขอบคุณเพื่อนที่ได้ส่งมอบบริการเพื่อนขอบคุณเพื่อนที่มีโอกาสทำความดี คนที่รับขอบคุณเพื่อนที่มีน้ำใจส่งต่อ ขอบคุณคนที่รอ ขอบคุณคนที่ตั้งใจ
4.             เด็กๆได้รับกระดาษ A4 แล้วรู้สึกอย่างไร ถ้าแปลงร่างได้อยากแปลงร่างกระดาษเป็นอะไร
5.             เด็กตอบที่ละคน
6.             วันนี้ครูมีนิทานไม่รู้ว่าชื่ออะไร มันเป็นความลับ ความลับบอกใครไม่ได้ ต้องเก็บไว้ดีๆ มิให้รั่วไหล
7.             เด็กทุกคนหยิบกระดาษมาแล้วพับไปพร้อมกับครู สังเกตดีๆ ติดตามทุกนาที ความลับที่ว่านี้คืออะไร
8.             กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นาน นาน นาน ก็ยังมีความลับ ความลับใต้ท้องทะเล ทะเลลึก
9.             ความลับที่ว่านี้มันซ่อนอยู่ใต้ภูเขาใต้ท้องทะเลลึก
10.      เขากลัวว่าความลับจะรั่วไหลเขาจึงสร้างประตูปิดความลับเอาไว้ 1 ข้างแต่ความลับยังรั่วไหล
11.      เขาจึงสร้างประตูปิดอีก 1 ข้างต่อมาเจ้าความลับที่อยู่ในนั้นมันรู้สึกอึดอัด มันอยากออกมาข้างนอกมันจึงพยายามหาทางออก
12.      เจ้าความลับมันเจอประตูมันจึงค่อยๆ เปิดประตูออกมาหนึ่งข้างมันกลัวคนเห็นแต่มันก็ไม่สามารถออกมาได้เพราะตัวมันใหญ่โตมาก
13.      มันจึงเปิดประตูอีกหนึ่งข้างเจ้าความลับมันดีใจมากที่ได้ออกมาเล่นข้างนอกได้มันว่ายน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน
14.      แต่น่าสงสารมีปลายฉลามใจร้ายว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ แล้วกัดที่หางของมัน มันตกใจมาก มันหันหลังกลับโดยไว
15.      แต่น่าสงสารอีกเจ้าปลาฉลามใจร้ายยังตามมากัดที่หางอีก เจ้าความลับบอกว่าอันตรายอย่างนี้นี่เองคนจึงไม่อยากให้ความลับรั่วไหล เก็บเอาไว้ดีๆ เก็บเอาไว้ให้มิชิด อย่างให้ใครรู้อย่าให้ใครเห็น มันอันตราย
16.      เด็กๆ ลองทายซิว่าเจ้าความลับที่ว่านี้มันคืออะไร


วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เกมปริศนาแก้วทายใจ 20 คำถาม

กิจกรรมจิตศึกษาลำปลายมาศพัฒนาเกมปริศนาแก้วทายใจ 20 คำถาม เด็กเข้าห้องเรียบร้อยครูบัวและเด็กๆท่องคำคล้องจอง กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ไข่ หนึ่งใบ สองบาท ห้าสิบ ห้าสิบ สองบาท หนึ่งใบ ไข่ ผ้าไหม ไข่ กรรไกร แล้วทำท่าประกอบ  และทำท่าประกอบแบบไม่มีเสียงครูต๋อย ครูมีแก้วกาแฟมาให้เด็กดู ในแก้วใบนี้มีสิ่งของสิ่งหนึ่งอยู่ข้างใน แต่ครูยังไม่บอก ให้พี่ ป.2 ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ข้างใน ครูให้ตั้งคำถามได้ 20  คำถาม  คำถามเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต-ไม่มีชีวิต เพื่อเก็บเป็นข้อมูล ถ้ามีครูจะบอกว่าใช่คะ ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ คำถามรวมกัน  20  คำถามเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของสิ่งของในแก้วคำถามไม่ซ้ำกับเพื่อน ครูเอาแก้วไปวางตรงกลางแล้วให้เด็กถามทีละคนเริ่มจากซ้ายมือของครูต๋อย คนที่ถามแล้วครูต๋อยขอเก็บคำตอบไว้ในใจ รอเพื่อนคนอื่นถามก่อนเพื่อสืบค้นข้อมูล คำถามหมด ยังไม่มีคำตอบ ครูต๋อยให้พี่ ป.2 ช่วยกันตอบ ครูตอบให้ตอบทีละคน คนที่ตอบแล้วครูต๋อยขอเก็บคำตอบไว้ในใจ รอเพื่อนคนอื่นตอบบ้างแต่คำตอบอาจเหมือนกันได้ คำตอบหมด ยังไม่มีคำตอบเราจะเฉลยพร้อมกันไม่ว่าจะถูกหรือไม่ถูกขอให้เราเก็บความดีใจของเราไว้อย่าแสดงออกมาให้ใครเห็น ครูต๋อยส่งแก้วกาแฟให้เด็กส่งไปให้ครูบัวเปิดแก้วปริศนา......คำตอบคือดอกกล้วยไม้............ครูต๋อยถามว่าที่ถามว่าสิ่งมีชีวิตใช่หรือไม่ ที่ว่าใช่เพราะอะไร ที่ว่าไม่ใช่เพราะอะไร เด็กให้เหตุผลเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะเป็นพืช พืชต้องการน้ำ ต้องการปุ๋ย มีการเจริญเติบโต  ที่ให้เหตุผลว่าเป็นสิ่งไม่มีชีวิตเพราะเคยเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตตอนนี้เด็ดออกมาแล้วไม่สามารถกินน้ำ กินอาหารได้ เดี่ยวก็เหี่ยวแห้งจึงเป็นสิ่งไม่มีชีวิต เหมือนคนที่ตายใหม่ๆ ก็เป็นคนไม่มีชีวิต ครูต๋อยบอกยอดเยี่ยม ดอกกล้วยไม้ที่เด็ดออกมากแล้วเป็นสิ่งไม่มีชีวิต





วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เดินทางไกลไปกับน้องอนุบาลลำปลายมาศพัฒนา


เดินทางไกลไปกับน้องอนุบาลลำปลายมาศพัฒนา
เตรียมการ การเตรียมการ ครูน้อยครูประจำชั้นอนุบาล 2 ครูกลอยครูประจำชั้นอนุบาล 1 ได้มีการส่งสื่อสารถึงผู้ปกครองน้องอนุบาลเพื่อมาประชุมปรึกษาหารือ และร่วมวางแผนว่าจะเตรียมการอย่างไร
ผู้ปกครองร่วมหารือแล้วได้ข้อตกลงดังนี้  ผู้ปกครองจะมาร่วมกิจกรรมเดินทางไกลในครั้งนี้ ส่วนที่มาไม่ได้เดี๋ยวค่อยมาร่วมกิจกรรมอย่างอื่นภายหลัง เพื่อผู้ปกครองจะได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อลูก วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลาช่วงเช้า  การวางแผนฐานกิจกรรม และสำรวจเส้นทาง ครูแลผู้ปกครองบางส่วนจะไปสำรวจในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556  สำรวจเส้นทางแล้วผู้ปกครองออกแบบฐานกิจกรรมให้เด็กได้ทดสอบ เรียนรู้และสนุกสนาน  วันที่ 31 มกราคม 2556 ครูแจ้งสื่อสารให้กับผู้ปกครอง ในการจัดเดินทางไกลครั้งนี้ กิจกรรมจะเริ่มหลังจากที่ทำกิจกรรมเคารพธงชาติ ในกิจกรรมจัดให้มีฐานทั้งหมด 3 ฐาน ฐานที่  1 ให้เด็กได้มุด ลอด ปีนป่าย ผจญภัยในป่า ฐานที่ 2 นันทนาการ และทำกระทงใบตองในป่า เพื่อเอาไปใส่อาหารกินในฐานที่ 3 สิ่งที่เตรียมนำมาให้เด็ก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก ขวดน้ำ นม และช้อน เท่านั้น สำหรับขนมไม่อยากให้นำมาเนื่องจากเด็กจะไม่รู้จักอดทนและรอคอย อาหารจะมีการจัดทำในฐานที่ 3 โดยผู้ปกครองในฐานที่ 3 ฐาน  สุดท้ายก่อนกลับมาที่โรงเรียน เพื่อรับการบ้านก่อนกลับ
จุดมุ่งหมายของการเดินทางไกลลำปลายมาศพัฒนา
1.             เพื่อเพิ่มขีดจำกัดของความอดทนของเด็ก
2.             เด็กได้รู้จักช่วยเหลือตนเอง ช่วยเหลือผู้อื่น
3.             เด็กได้ปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ
4.             เด็กได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ
ระยะทางของการเดินทางไกล
·       อนุบาล 1-2  ระยะทาง    4    กิโลเมตร
·       ชั้นประถมปีที่   1-2    ระยะทาง  กิโลเมตร
·       ชั้นประถมปีที่   1-2    ระยะทาง  กิโลเมตร
·       ชั้นประถมปีที่   1-2    ระยะทาง  10  กิโลเมตร
สังเกตการณ์เดินทางไกลของน้องอนุบาลลำปลายมาศพัฒนา วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556
วันนี้ที่อาคารน้องอนุบาลคึกครื้นมากเด็ก ๆ แต่งตัวมาตามที่คุณครูนัดหมายมีเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก ขวดน้ำ นม และช้อน ครบในความรู้สึกของเด็กๆ ตื่นเต้นมาก  รวมทั้ง คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย เวลา 08.00 น.กิจกรรมเคารพธงชาติครูบัวเป็นคนนำกิจกรรมและเชิญเด็กทำกิจกรรมต่อ  ครูกลอย ครูน้อย นำเด็กอนุบาลมาทำกิจกรรมหน้าอาคารอนุบาล และแจ้งให้เด็ก ๆ ทราบเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในการเดินทางไกล และถามเด็กว่าเราจะปฏิบัติตนอย่างไรเด็กๆตอบได้ว่า เราจะไม่ส่งเสียงดัง เราจะไม่หยอกล้อกัน เราจะอดทน เราจะช่วยเหลือตนเองทุกอย่าง เราจะระมัดระวังในการเดินทาง
ครูน้อยและครูกลอยแบ่งเด็กเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 สี่เขียวกับสีฟ้า อยู่กับครูกลอย ครูเลข และครูเมลลิสา กลุ่มที่ 2 สีแดงกับสีเหลือง อยู่กับครูน้อย ครูเกด และครูตุ่ง  ผู้ปกครองแยกส่วนไปทำฐานรับผิดชอบกิจกรรม ประจำฐาน  3 ฐาน มีฐานละ 5 คน  ที่เหลือแยกตามที่ถ้ามีลูกอยู่กลุ่มไหนผู้ปกครองต้องอยู่คนละกลุ่มกับลูกแผนที่การเดินทางจะไปตามลูกศร
·       ลูกศรสีดำขอบสีน้ำเงิน ให้เดินทางตามลูกศรชี้
·       ลูกศรสีดำขอบสีแดง ทางลวง
·       ลูกศรสีขาวขอบสีน้ำเงิน ให้เดินทางตามลูกศรชี้
·       ลูกศรสีขาวขอบสีแดง ทางลวง
·       ลูกศรสีดำขอบสีน้ำเงินแยกสองท่อน =  .ทางลวง
·       ลูกศรสีดำขอบสีแดงแยกสองท่อน =  .ให้เดินทางตามลูกศรชี้
การเดินทางเริ่มจากประตูโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย เดินเรียบริมถนน ไปถึงบ้านกวางนอน เดินไปตามลูกศร จะไปถึงฐานที่หนึ่งต่อจากฐานที่ 1 ไปฐานที่ 2 ตามลูกศรทีโคกหีบ ต่อจากฐานที 2 ไปฐานที่  3 ทางออกจากป่าโคกหีบ เราจะมารับประทานอาหารที่ฐานที่ 3 ขอให้เด็กๆ ตั้งใจ  อดทนเพื่อพี่ร่างกาย พี่ขาที่แข็งแรง  ครูทบทวนก่อนออกเดินทางอีกครั้ง
  เมื่อพร้อมแล้วออกเดินทางตามแผนที่
ในการเดินทางข้าพเจ้า(ครูเลข) อยู่กลุ่มที่ 1 ครูกลอยเป็นคนนำและถือธงสีฟ้า ส่วนข้าพเจ้าและครูเมลลิสาคอยระวังเด็กมิให้ขึ้นมาเดินบนถนนลาดยางเนื่องจากมีรถวิ่งสวนไปมาค่อนข้างมาก ผู้ปกครองที่ร่วมเดินทางก็คอยดูแลระมัดระวังเช่นกันระหว่างที่เดินริมทางลาดยางถึงเขตป่าบ้านกวางนอนมีเด็กคนหนึ่งผู้หญิงมัวมองป่าไม่ได้ดูทางเดินเลยโดนหนามเกี่ยวขาเอาออกเองไม่ได้ผู้ปกครองและข้าพเจ้าก็ช่วยกันเอาออกให้ หนามที่ว่านี้คือหนามเล็บแมว พอเด็กผู้ชายเห็นก็เห็นต้นพอดีเขารู้ว่ากินได้ก็เก็บกินแล้วบอกเพื่อนว่ามันกินได้อร่อยดี แล้วเดินต่อไม่นานเด็กผู้ชายชื่อน้องอั๋นบอกว่าไม่ไหวเดินต่อไม่ไหวเหนื่อยมาก ผู้ปกครองบอกเดี๋ยวจะพาไปรอที่ฐานที่สาม ระหว่างทางครูกลอยพาเด็กอ่านป้ายข้างทางพาเด็กดูเสากิโล และสังเกตสิ่งต่างๆ เด็กเดินไปถึงทางเข้าบ้านกวางนอนครุกลอยหยุดเพื่อรอเด็กให้มาพร้อมกันและเดินต่อตามลูกศรและถาเกี่ยวกับลูกศรที่เจอว่าหมายความว่าอย่างไรเด็กช่วยกันคิดและเดินตามลูกศรที่ให้เดินตามลูกศรชี้ ถ้าทางลวงไม่เดินเข้าไป  พอไปถึงฐานที่ 1 ครูกลอยเด็กๆ ข้าพเจ้าและครูเมลลิสาและผู้ปกครองที่ติดตามมาด้วยกันทักทายผู้ปกครองที่อยู่ในฐานที่ 1 แล้วผู้ปกครองที่อยู่ในฐานที่หนึ่งก็แนะนำกิจกรรมที่เตรียมไว้คือมุดลอดอุโมงค์สวรรค์เด็กๆตื่นเต้นมาก บางคนถามว่าทำอย่างไร บางคนถามมีมดแดงไหม ครูกลอยให้เด็กต่อเป็นแถวยาวผู้ปกครองฐานถามว่าเด็กๆเดินผ่านมาถึงฐานที่ 1 เห็นรถมอเตอร์ไซด์กี่คันบางคนตอบ 5 บ้าง 10บ้าง บางคนบอกไม่ได้นับบางคนถามให้ไปนับไหมครับผู้ปกครองฐานบอกไม่เป็นไรเรามามุดลอดอุโมงค์สวรรค์กันดีกว่าเด็กๆพร้อม เด็ก: พร้อม  แล้วก็มุดลอดเชือกที่สานไปสานมาแล้วเอากิ่งไม้มาวางข้างบนให้ดูคล้ายอุโมงค์เด็กลอดทั้งสำภาระที่เตรียมมาบางคนขวดน้ำหล่น บางคนไม่ได้รองเท้ารองเท้าหลุด บางคนก็กลัวมด ถามว่าจะมีมดกัดไหม แต่ท้ายที่สุดเด็กๆ ก็สามารถทำได้ทุกคน พอโผล่จากอุโมงค์รับผ้าปิดตาแล้วผู้ปกครองฐานบอกต่อไปให้คนตามบอดเดินทางไกลโดยจับเชือกเดินไปตามเชือกเด็กตื่นเต้น ตื่นเต้นเพราะมองไม่เห็นบอกให้ทำอะไรก็ทำแต่ไม่ยอมปล่อยเชือก เด็กบางคนผ้าหลุดก็ไม่ยอมเดินต่อรักษากติกาดีมาก  พอพ้นเส้นทางคนตาบอดเดินทางไกลเด็กตั้งแถวรอเพื่อนและขอบคุณผู้ปกครองฐานที่ 1 แล้วเดินทางต่อตามลูกศรเด็กสามารถสังเกตและจดจำความหมายของลูกศรและบอกเพื่อนว่าไปได้หรือไม่ได้  ถึงฐานที่ 2 ที่โคกหีบ ผู้ปกครองฐานที่ 2 รอรับอยู่  พอไปถึงเด็ก ๆ สวัสดีผู้ปกครองฐานที่ ผู้ปกครองฐานที่ 2 ให้เด็กได้นั่งพักและดื่มน้ำและได้ดูการละเล่นของผู้ปกครองสนุกสนานและร่วมเล่นและร้องเพลง เครื่องบิน  ปื๊ด ปืด ปืด  ปืด ปืด มา ยาวอืดลืด แท้นอเครืองบิน ป๊าด ปาด ปาด ปาด ปาด มายาวอาดลาด แท้นอเครืองบิน ยามจอดมันกะจดอยู่ดิน ยามจอดมันกะจอดอยู่ดิน บัดยามมันบินมันกะบินขึ้น...ฟ้า  ผู้ปกครองพาเด็กๆ เย็บกระทงใบตอง จากใบไม้ในป่าเพื่อนำไปใส่อาหารรับประทานในฐานที่ เมื่อได้กระทงแล้วเดินทางตามลูกศรเด็กเริ่มสับสนเพราะมีลูกศรลวงอยู่ใกล้กันมาก แต่ก็ปรึกษากันเองแล้วลงความเห็นแล้วเดินทางต่อได้ถูกต้องไปถึงฐานที่ 3 เด็กสวัสดี ผู้ปกครองฐานที่ 3  และผู้ปกครองฐานที่ 3 แนะนำการทำอาหารในป่าต้องใช้ฟืนและเตาทำจากไม้ท่อนตอกใส่กับต้นกล้วยกันไฟไหม้หลัก 3 หลักเพื่อให้ตั้งหมอได้ แล้วผู้ปกครองฐานที่ให้เด็กนั่งพักรอก่อน ดื่มน้ำรอก่อน ตอนนี้อาหารยังไม่พร้อม เด็กหาที่นั่งรอและได้เจอกับผู้ของตนและไปนั่งด้วยบางคนผู้ปกครองไม่ได้อยู่ที่ฐานที่ 3 ก็ไม่มีปัญหา ผู้ปกครองถามเด็กทำไมครูให้มาเดินทางไกล เด็กบอกฝึกความอดทน และให้พี่ขาแข็งแรงเราจะได้โตขึ้นเหมือนพี่ประถม เด็กบางคนขณะที่รอก็ไปเล่นปีนป่ายต้นไม้ เถาวัลย์เครือไม้ป่าเล่นอย่างสนุกสนาน สักพักกลุ่มที่สองก็มาถึง ครูน้อยแจ้งว่าหาทางเข้าฐานที่ 3 ไม่เจอเครื่องหมายลวงมากมายใกล้กันสับสนเลยเดินเข้าเดินออกหลายรอบ เด็กบอกหิวข้าว ถ้าเราออกไปไม่ได้เราจะได้กินข้าวไหม ตอนนี้เราไม่มีข้าวครูน้อยบอกเราต้องหาทางให้เจอเดี๋ยวก็ไปได้ลองใหม่อีกที ในที่สุดกลุ่มที่ 2 ก็ทำสำเร็จ ตอนนี้ผู้ปกครองในฐานที่ 1 และฐานที่ 2 ครูต่ง ครูเกด ได้มาสมทบเรียบร้อย เด็กได้นั่งพัก ดื่มน้ำและเล่นกับป่า อาหารพร้อมเด็ก ผู้ปกครอง และครู ร่วมรับประทานอาหารในฐานที่ 3  โดยใช้กระทงใบตองที่เย็บมาจากฐานที่ 2 แทนถ้วยจานรองอาหาร อาหารมีผัดหมี่ ส้มตำ และอาหารที่ผู้ปกครองเตรียมมาจากบ้านบางส่วน เมื่อเรียบร้อยแล้วเก็บช่วยกันเก็บขยะรวบรวมกลับ การออกจากฐานที่ 3 เด็ก ๆ ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน เด็กเดินออกจากป่าตั้งแถวตรวจความเรียบร้อย ตรวจนับจำนวนสมาชิกครบ ครูกลอยนำกลุ่มที่ 1 กลับโรงเรียน ครูน้อยนำกลุ่มที่ 2 เด็กได้อ่านป้าย อ่านหลักกิโล ที่เดินผ่านตามครูกลอยข้าพเจ้าคอยดูเด็กข้างหลังกลุ่มที่ 1 กลับโรงเรียน ทุกคนถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย เมื่อมาถึงโรงเรียนครูให้เด็กได้นั่งพักให้เด็กร้องเพลงรอ และครูแจกการบ้านเดินทางไกล ให้เด็กวาดภาพสิ่งที่ประทับใจในการเดินทางแล้วระบายสีให้สวยงาม แล้วบอกผู้ปกครองว่าชอบอะไรให้ผู้ปกครองเขียนในผลงาน เด็กขอบคุณ คุณครูแล้วเดินทางกลับบ้านกับผู้ปกครองที่มารับ



ภาคผนวก  กิจกรรมเด็กทางไหลไปกับน้องอนุบาลลำปลายมาศพัฒนา
























วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

พี่ปลาดาวแบ่งปันความสุขให้น้องอนุบาล


Body scan

          หลังจากที่น้องอนุบาล 1 เดินเข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้วให้ไปที่บ้านของตนเอง แล้วนอนลงที่บ้านของตนเอง  ให้พี่หลังได้พักผ่อน ให้พี่ร่างกายได้พักผ่อน ให้พี่แขนได้พักผ่อน ให้พี่ขาได้พักผ่อน ให้พี่หัวใจได้พักผ่อน สูบลมหายใจเบาๆแล้วปล่อยค่อยๆ ปล่อยออกมา พี่ท้องได้พักผ่อน   เด็กๆรักตัวเองนอนเป็นพี่ปลาดาว  พี่ปลาดาวนอนอยู่ใต้ท้องทะเล พี่ปลาดาวได้พักผ่อน  วันหนึ่งมีพี่สายน้ำเย็นแวะมาทักทายพี่ปลาดาวทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบาย พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่ใบหน้าของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่ใบหน้าของพี่ปลาดาว  พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่แขนของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่แขนของพี่ปลาดาว พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่มือของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่มือของพี่ปลาดาว  พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่ขาของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่ขาของพี่ปลาดาว  พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่เท้าของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่เท้าของพี่ปลาดาว  พี่สายน้ำเย็นพัดไปที่ท้องของพี่ปลาดาว ทำให้พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายที่ท้องของพี่ปลาดาว พี่ปลาดาวนอนพักผ่อน พี่ปลาดาวรู้สึกเย็นสบายแลผ่อนคลาย  ผ่อนคลาย  ผ่อนคลายและเย็นสบาย  พี่ปลาดาวคิดถึงเด็กๆน้องอนุบาล  พี่ปลาดาวฝากพี่สายลมแวะไปทักทายเด็กๆทำให้เด็กๆ เย็นสบายและผ่อนคลาย  พี่สายลมพัดไปที่ใบหน้าของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่ใบหน้าของตัวเอง  พี่สายลมพัดไปที่ไหล่ของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่ไหล่ของตัวเอง   พี่สายลมพัดไปที่แขนของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่แขนของตัวเอง  พี่สายลมพัดไปที่มือของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่มือของตัวเอง  พี่สายลมพัดไปที่ขาของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่ขาของตัวเอง  พี่สายลมพัดไปที่เท้าของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่เท้าของตัวเอง  พี่สายลมพัดไปที่ท้องของเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ที่ท้องของตัวเอง เด็กๆ รู้สึกเย็นสบายและผ่อนคลาย ผ่อนคลาย ผ่อนคลาย และเย็นสบาย  เด็กๆ รู้สึกขอบคุณพี่สายลมที่ทำให้เด็กๆ รู้สึกเย็นสบาย ขอบคุณพี่ปลาดาวที่ส่งความสุขมาให้ ขอบคุณความตั้งใจของพี่ปลาดาว ขอบคุณความหวังดี  ขอบคุณทุกสรรพสิ่ง ที่ทำให้พี่ร่างกาย พี่ใบหน้า พีไหล่ พี่แขน พี่มือ พี่ขา พี่เท้า พี่ท้องของเด็กๆ ได้พักผ่อน ขอขอบคุณอย่างจริงใจ ขอให้ทุกสรรพสิ่งมีความสุข ขอให้พี่สายลมมีความสุขเย็นสบายและผ่อนคลาย  ขอให้พี่ปลาดาวมีความสุขเย็นสบายและผ่อนคลาย ผ่อนคลาย ผ่อนคลายและเย็นสบาย   

เพลงและคำคล้องจองสำหรับเด็กปฐมวัย
                       เพลงและคำคล้องจองเด็ก เป็นคำง่าย สั้นๆ เข้าใจง่าย  มีการเล่นสัมผัส เล่นลิ้น  เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีความสุขรู้สึกผ่อนคลาย สามารถดึงความสนใจมาสู่การเรียนรู้ได้ ใช้เชื่อมโยงในเนื้อเรื่อง เนื้อเพลง คำคล้องจองอาจแทรกคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์ เพลงบางเพลงเป็นเนื้อเรื่องสั้นๆ  เด็กสามารถเรียนรู้และเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อสารในเนื้อเพลงได้ง่าย จดจำได้เร็ว แม่นยำ เราอาจใช้เพลง คำคล้องจองในขั้นนำ ขั้นสอน หรือขั้นสรุปก็ได้ เพลงเด็ก และคำคล้องจอง เป็นการเตรียมความพร้อมทักษะทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย ด้านการฟังและการพูด  พัฒนาการคิด สามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟังและสื่อความหมาย โดยการร้องเล่น เต้นรำ ตามจินตนาการ เราอาจใช้เพลงในการแก้ไขหรือปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์สำหรับเด็กได้  การใช้เพลง คำคล้องจอง อาจแค่ร้องเล่น ทำท่าทาง หรืออาจใช้อุปกรณ์ประกอบด้วยก็ได้

                                                                                               เพลงเสียงฝน


เสียงฝนหล่นจากฟากฟ้า                                      สาดซัดมาหนาวเย็นกระไร
พวกเราอย่าออกไปไหน                                       เปียกฝนไปจะเป็นหวัดเอย
ฮัดเช่ย......ฮัดเช่ย......ฮัดเช่ย......

เพลงเสียงฝน เป็นเพลงสั้นๆ เข้าใจง่าย มีการเล่นสัมผัส เด็กจดจำได้เร็ว ใช้ในการเรียนรู้เกี่ยวกับน้ำ ฝน หรือการปฏิบัติ  ตัวในฤดูฝนก็ได้ ท่าทางเด็กสามารถคิดและแสดงออกได้ตามจินตนาการ


คำคล้องจองฝนตกจัก ๆ
ฝนตกจักๆ มือซ้ายหิ้วปลา มือขาวถือผัก พอถึงที่พักวางผัก วางปลา พอถึงศาลา วางปลา  วางผัก

คำคล้องจองฝนตกจัก ๆ  เป็นคำง่าย ๆ สั้น ๆ ต้องการสื่อความหมายให้เด็กรู้ซ้าย - ขวา  เด็กจะได้รู้และได้ใช้ทักษะการฟัง การพูด การคิด ว่าข้างซ้ายอยู่ตรงไหน ข้างขวาอยู่ตรงไหน


คำคล้องจองฝนตก พรำๆ
ฝนตกพรำๆ แม่ดำกางร่ม  แกเดินก้มๆ อยู่ข้างกำแพง ประเดี๋ยวแดดออก แกบอบพ่อแดง ฉันไม่มีแรง หุบร่มให้ที

คำคล้องจองฝนตกพรำ ๆ เป็นคำง่ายๆ สั้น ๆ ซ้ำๆ แทรกคุณธรรมจริยะธรรม 

 เพลงหมาป่ากับลูกแกะ
                                    หมาป่า:        เจ้าหมาป่าตาวาวเหลือบมอง           เห็นลูกแกะย่องลงน้ำลำธาร
ด้วยสันดานพาลแต่ใดมา                       จึงร้องไปว่านี่เจ้าแกะน้อย
ตัวของข้ากำลังดื่มน้ำ            แล้วใยมาย่ำให้น้ำขุ่นเป็นตมไม่คอย
                        ลูกแกะ:           เจ้าแกะน้อยตัวสั่นพลันถอย           บอกว่าข้าน้อยมิได้เจตนา
กระแสน้ำไหลมาทาข้านี้                            แล้วใยจะมีน้ำขุ่นขึ้นมา
           หมาป่า:        ไม่เป็นไรน้ำขุนที่ว่า        ปีก่อนด่าข้าแล้วเจ้าจะว่าอย่างไร
                  ลูกแกะ:       ปีก่อนข้ายังไม่เกิดเลย   แล้วใครกันเอ่ยด่าท่านให้เคืองแค้นใจ
                         หมาป่า:       พ่อของเจ้าเคยด่าข้าไว้           โทษเจ้ามากหลายข้าเลยต้องจับเจ้ากิน

เพลงลูกแกะกับหมาป่า เป็นเรื่องราวสั้น ๆ สนุกสนาน แทรกคติเตือนใจเด็กจำได้เร็วและแม่นยำ